วีดีโอทั่วไป
วีดีโอทั่วไป
หนึ่งวันที่ไร่ข้าว One day at the rice field
หนึ่งวันที่ไร่ข้าว One day at the rice field ‘ไร่หมุนเวียน’ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาในการทำไร่บนวิถีแห่งการอนุรักษ์ป่า ภูมิปัญญาการทำไร่หมุนเวียนเป็นวิถีแห่งการอนุรักษ์ เป็นการใช้พื้นที่เพาะปลูกในช่วงเวลา 1 ปี จากนั้นหมุนเวียนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้พื้นที่เดิมได้พักฟื้นและสะสมแร่ธาตุอาหารในดิน โดยวงจรในการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนใช้เวลาประมาณ 5 – 12 ปี การพักฟื้นคือการปล่อยพื้นที่ทิ้งไว้เฉยๆ พื้นที่พักฟื้นมีชื่อเรียกว่า ‘ไร่เหล่า’ ตลอดระยะเวลา 12 ปี ธรรมชาติจะเยียวยารักษาผืนดิน มอบความอุดมสมบูรณ์และพืชพรรณ จนพื้นที่ไร่เหล่าซึ่งเคยราบเตียนกลับมาชอุ่มชุ่มชื้นเป็นผืนป่าเขียวขจีอีกครั้ง การทำไร่หมุนเวียนถือเป็นวิถีการเกษตรที่สอดคล้องกับหลักนิเวศป่า และเป็นภูมิปัญญาในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และยังถือเป็นหลักประกันของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร เพราะการทำไร่หมุนเวียนนอกจากจะมีการปลูกข้าวไร่ซึ่งถือเป็นพืชชนิดหลักแล้ว ยังมีการปลูกพืชพรรณชนิดอื่นๆ แบบผสมผสาน ทั้งพืชล้มลุก พืชคลุมดิน รวมไปถึงไม้ยืนต้น ^__^
ตามติด #วิถีชีวิตชนบท วันที่ 3 ของการ #ปลูกข้าว Follow the rural way of life Day 3 of #riceplanting
ตามติดวิถีชีวิตชนบท วันที่ 3 ของการปลูกข้าว Follow the rural way of life Day 3 of rice planting “สู่บือ” (ปลูกข้าว) #บือ #ข้าว ชาวปวาเก่อญอจะเรียกข้าวว่า ‘บือ’ คนเมืองหรือคนไทยในพื้นราบจะเรียกกันว่า ‘ข้าวดอย’ เพราะเป็นข้าวที่ปลูกอยู่บนดอยตามชื่อ เมื่อปลูกบนดอยก็ยากที่จะทำนาแบบใช้น้ำเหมือนการปลูกข้าวบนพื้นราบ นาส่วนใหญ่จะเป็นนาขั้นบันได อาศัยลำธารเล็กๆและก็น้ำฝนในการหล่อเลี้ยงเพื่อให้ข้าวเจริญเติบโตงอกงาม ระยะเวลาการเพาะปลูปจะกินเวลานาน ประมาณ 7-8 เดือน เพราะเป็นนาปี คือเริ่มหว่านกล้าตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม และเก็บเกี่ยวในต้นเดือนธันวาคม ซึ่งในเวลานานมากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและลักษณะภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ด้วย ข้าวดอยเมล็ดจะสั้นป้อม เหนียว นุ่ม หนึบ (บือโป๊ะโล๊ะ) กินกับอาหารได้ทั้งเปียก หมาด และแห้ง ถ้ากินบนดอยอาจจะได้กลิ่นควันจากเตาที่หุงด้วยฟืนช่างได้ฟิลสำหรับการเจริญอาหารยิ่งนัก ^__” ข้าวพันธุ์บือโป๊ะโล๊ะ ถูกปลูกในที่สูง ที่มีอากาศเย็น โดยดั้งเดิม เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองของกลุ่มขาติพันธุ์ปวาเก่อญอซึ่งพันธุ์ข้าวบือโป๊ะโล๊ะ เป็นพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมที่ผ่านการคัดเลือก โดยภูมิปัญญาของบรรพบุรุษชาวปวาเก่อญอ เรียกได้ว่า เป็นมรดกสืบทอดกันมาปว่าเก่อญอเลยก็ได้ สนใจเดินชมทุ่งท่องเที่ยวแบบบ้านๆ […]
ตามติด #วิถีชีวิตชนบท วันที่ 2 ของการ #ปลูกข้าว Follow the rural way of life Day 2 of #riceplanting
ตามติดวิถีชีวิตชนบท วันที่ 2 ของการปลูกข้าว Follow the rural way of life Day 2 of rice planting “สู่บือ” (ปลูกข้าว) #บือ #ข้าว ชาวปวาเก่อญอจะเรียกข้าวว่า ‘บือ’ คนเมืองหรือคนไทยในพื้นราบจะเรียกกันว่า ‘ข้าวดอย’ เพราะเป็นข้าวที่ปลูกอยู่บนดอยตามชื่อ เมื่อปลูกบนดอยก็ยากที่จะทำนาแบบใช้น้ำเหมือนการปลูกข้าวบนพื้นราบ นาส่วนใหญ่จะเป็นนาขั้นบันได อาศัยลำธารเล็กๆและก็น้ำฝนในการหล่อเลี้ยงเพื่อให้ข้าวเจริญเติบโตงอกงาม ระยะเวลาการเพาะปลูปจะกินเวลานาน ประมาณ 7-8 เดือน เพราะเป็นนาปี คือเริ่มหว่านกล้าตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม และเก็บเกี่ยวในต้นเดือนธันวาคม ซึ่งในเวลานานมากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและลักษณะภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ด้วย ข้าวดอยเมล็ดจะสั้นป้อม เหนียว นุ่ม หนึบ (บือโป๊ะโล๊ะ) กินกับอาหารได้ทั้งเปียก หมาด และแห้ง ถ้ากินบนดอยอาจจะได้กลิ่นควันจากเตาที่หุงด้วยฟืนช่างได้ฟิลสำหรับการเจริญอาหารยิ่งนัก ^__” ข้าวพันธุ์บือโป๊ะโล๊ะ ถูกปลูกในที่สูง ที่มีอากาศเย็น โดยดั้งเดิม เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองของกลุ่มขาติพันธุ์ปวาเก่อญอซึ่งพันธุ์ข้าวบือโป๊ะโล๊ะ เป็นพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมที่ผ่านการคัดเลือก โดยภูมิปัญญาของบรรพบุรุษชาวปวาเก่อญอ เรียกได้ว่า เป็นมรดกสืบทอดกันมาปว่าเก่อญอเลยก็ได้ สนใจเดินชมทุ่งท่องเที่ยวแบบบ้านๆ […]
บรรยากาศปลูกข้าววันแรก ประจำปี 2566 เป็นอย่างไรไปดู Planting rice for the first day of the year 2023
ฤดูปลูกข้าว ปี 2566 นี่คือวิถีชีวิตชนบทในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเทศไทย Rice Planting Season 2023 This is the rural way of life in Mae Hong Son Province, Thailand. “สู่บือ” (ปลูกข้าว) #บือ #ข้าว ชาวปวาเก่อญอจะเรียกข้าวว่า ‘บือ’ คนเมืองหรือคนไทยในพื้นราบจะเรียกกันว่า ‘ข้าวดอย’ เพราะเป็นข้าวที่ปลูกอยู่บนดอยตามชื่อ เมื่อปลูกบนดอยก็ยากที่จะทำนาแบบใช้น้ำเหมือนการปลูกข้าวบนพื้นราบ นาส่วนใหญ่จะเป็นนาขั้นบันได อาศัยลำธารเล็กๆและก็น้ำฝนในการหล่อเลี้ยงเพื่อให้ข้าวเจริญเติบโตงอกงาม ระยะเวลาการเพาะปลูปจะกินเวลานาน ประมาณ 7-8 เดือน เพราะเป็นนาปี คือเริ่มหว่านกล้าตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม และเก็บเกี่ยวในต้นเดือนธันวาคม ซึ่งในเวลานานมากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและลักษณะภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ด้วย ข้าวดอยเมล็ดจะสั้นป้อม เหนียว นุ่ม หนึบ (บือโป๊ะโล๊ะ) กินกับอาหารได้ทั้งเปียก หมาด และแห้ง ถ้ากินบนดอยอาจจะได้กลิ่นควันจากเตาที่หุงด้วยฟืนช่างได้ฟิลสำหรับการเจริญอาหารยิ่งนัก ^__” ข้าวพันธุ์บือโป๊ะโล๊ะ ถูกปลูกในที่สูง ที่มีอากาศเย็น […]
Full Review Maeyen Waterfall in Pai Thailand by Deksammork
#น้ำตกแม่เย็น #Maeyen waterfall #น้ำตกแม่เย็น เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอำเภอปาย ตั้งอยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของป่าเชิงดอยห้วยน้ำดัง อยู่ในเขตตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน น้ำตกแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่หลงไหลและชื่นชอบธรรมชาติ รักในการเดินป่า เพราะจะต้องอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ด้วยการเดินทางเท้า เพื่อนำตัวเองเข้าไปสู่น้ำตกแห่งนี้ยาวนานถึง 1-2 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย แต่หากไปถึงที่จุดหมายแล้วความเหนื่อยล้านั้นจะหายเป็นปลิดทิ้งแน่นอน เพราะเบื้องหน้าของคุณคือสายน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาหินสูงกว่า 25-30 เมตร ผ่านแอ่งน้ำเป็นชั้น ๆ ก่อนจะไหลลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ด้านล่างกลางป่าที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นแบบสุดๆ ซึ่งแอ่งหินจะลื่นมากๆ หากปีนขึ้นเพื่อถ่ายรูปจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปเที่ยวคือช่วงปายหน้าฝนต้นหนาวและหน้าร้อน แต่หน้าร้อนน้ำอาจจะน้อยไปหน่อย แต่ก็อิ่มเอมกับธรรมชาติข้างทางได้เต็มที่ ไม่รู้จักอธิบายอย่างไร ต้องเดินไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองแหละครับ เดี๋ยวให้ภาพบรรยายละกันนะครับ หากสนใจให้พาเที่ยว ติดต่อมาได้ครับ ^___^
Doi Jigjong | ดอยจิกจ้อง
Doi Jigjong | ดอยจิกจ้อง ดอยจิกจ้อง ณ จุดสูงสุด มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,933 เมตร ท่ามกลางขุนเขาทิวทัศน์ 360 องศา สามารถมองเห็นวิวอำเภอปายได้เป็นอย่างดี อากาศบนยอดดอยเย็นสบายและบริสุทธิ์ ดอยจิกจ้อง ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีโอกาสผ่านมาแม่ฮ่องสอน อย่าลืมแวะเที่ยวชมกันนะครับ ^__” Doi Jigjong Doi Jig Jong at the highest point has a height of 1,933 meters above sea level. The air on the top of the mountain is cool and pure. Doi Jig […]
กองแลน/Pai Canyon (ปาย แคนยอน) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดจากการที่ดินทรุดตัวบนภูเขาสูงนี้ และถูกกัดเซาะเป็นร่องลึกคล้ายหน้าผา
กองแลน/Pai Canyon (ปาย แคนยอน) กองแลน หรือ ปายแคนยอน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดจากการที่ดินทรุดตัวบนภูเขาสูงนี้ และถูกกัดเซาะเป็นร่องลึกคล้ายหน้าผา ต่อกันเป็นบริเวณกว้าง ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอปายไปตามเส้นทางหลวง หมายเลข 1095 สายปาย – แม่มาลัย ประมาณ 7 กิโลเมตร อยู่ทางด้านขวามือ สามารถเดินเที่ยว ถ่ายรูปได้เป็นวงกลม ชมความสวยงามได้โดยรอบแบบ 360 องศา เวลาเดินเที่ยวต้องระวังมากๆ เพราะดินจะร่วนมากและยังเป็นดินแดงอีกด้วย อาจจะลื่นและทำให้เกิดอันตรายได้ กองแลนหรือปายแคนยอน ถือเป็นไฮไลท์ยอดฮิตอันดับต้นๆของคนมาเที่ยวปาย สำหรับดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกในที่เดียวกัน มีโอกาสแวะมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของปายที่กองแลนกันได้นะครับ ^___” Kong Lan/Pai Canyon Kong Lan or Pai Canyon is a naturally occurring tourist attraction. caused by land subsidence on this high […]
พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 จากประเทศศรีลังกา บรูไน และประเทศไทย ณ พระธาตุเจดีย์บ้านห้วยหมาก-ลาง (ข่อบือคี) หมู่ที่ 4 ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 จากประเทศศรีลังกา บรูไน และประเทศไทย ณ พระธาตุเจดีย์บ้านห้วยหมาก-ลาง (ข่อบือคี) หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000 ประเทศไทย ถวายการอุปถัมภ์โดยคุณแม่อรวรรณ ทำบุญ พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์และคณะ ตลอดถึงพุทธศาสนิกชนบ้านห้วยหมาก-ลาง และหมู่บ้านใกล้เคียง เนื่องในวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสำหรับชาวพุทธทุกนิกายทั่วโลก ในอดีตได้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า โดยทั้งสามเหตุการณ์ได้เกิดใน วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ ปัจจุบันวันวิสาขบูชาได้รับการยกย่องให้เป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนา และเป็นวันหยุดในหลายประเทศด้วย คนไทยในฐานะชาวพุทธมักจะไปไหว้พระ ทำบุญ และเวียนเทียนในวันสำคัญนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของตนเองและครอบครัว ^__”
หนอนไม้ไผ่ #รถด่วน #bamboo worm ณ ดอยผีลู
หาหนอนไม้ไผ่ #รถด่วน #bamboo worm วันนี้พาไปหาหนอนไม้ไผ่ หรือว่ารถด่วนที่ดอยผีลูกัน ซึ่งในช่วงฤดูฝนหรือช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปี ประมาณกลางเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่มีหนอนไม่ไผ่ หรือ “รถด่วน” หนอนไม้ไผ่จะมีอยู่ตามป่า อาศัยอยู่ในพวกไม้ไผ่รวก ไผ่บง ไผ่ตง หรือไผ่อื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่มีลักษณะภูมิประเทศที่แตกกันออกไป หนอนไม้ไผ่ หรือ “รถด่วน” ถือว่าเป็นอาหารเมนูสุดยอดอย่างหนึ่งที่ผู้คนมักจะนิยมชอบรับประทาน โดยเฉพาะคนทางเหนือหรือคนบนดอยอย่างผม 55+ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะหากินเพื่อยันชีพ แต่ถ้าหาได้เยอะก็เอามาแบ่งปันให้กับญาติพี่น้อง เพื่อนพ้อง ญาติสนิทมิตรสหาย หรือเอาไปขายก็สามารถสร้างรายได้ ได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน ในหนึ่งปีจะมีเพียงหนึ่งครั้ง รสชาติอร่อย ยิ่งเอามาลวก เอามายำ เอามาทอด คั่วเกลือ ตำน้ำพริก กลับแก้ม กินเล่น หรือสุดแต่ท่านจะทำเมนู อร่อยทุกเมนูแน่นอน พูดแล้วน้ำลายไหลเลย 55+ ทั้งนี้เพราะหนอนไม้ไผ่นั้นมีคุณค่าทางด้านโภชนาการที่ดีมีโปรตีนสูงอีกด้วยครับ ^____^ https://youtube.com/shorts/cvy8bmObDsQ?feature=share