เป่อเกร่อเอาะปว่าโหม่เต่อเกฺ…ปว่าโหม่เกฺเต่อก๊อเอาะเหน่อเม อย่าอวดแม่คนอื่น…แม่คนอื่นไม่เรียกเรากินข้าว

มีนิทานที่เล่าขานกันมานานในครั้งอดีตกาลว่า
มีแม่ลูกอยู่คู่หนึ่ง แม่เป็นคนทุกข์ยากไร้ ใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ต้องหาเช้ากินค่ำ
แต่ก็สามารถเลี้ยงดูแลลูกชายจนเติบใหญ่

เมื่อเวลาผ่านไปลูกชายก็โตเป็นหนุ่มและได้ชอบพอกับสาวคนหนึ่ง
ซึ่งพ่อแม่ของสาวคนนี้มีฐานะค่อนข้างดี คือ มีฐานะดีกว่าทุกอย่างนั่นแหละ

วันหนึ่งทั้งสองครอบครัวได้พากันไปหาปลาในลำห้วย
ไปด้วยกัน 4 คน คือ ลูกชายกับแม่ และสูกสาวกับแม่
ในขณะที่กำลังจับปลาอยู่นั้นลูกชายก็จับแต่ปลาตัวใหญ่ๆใส่ในกระบุง (ก๋วย)ของแม่สาวคนที่ตนแอบชอบอยู่
แทนที่จะใส่ในกระบุง (ก๋วย) ของแม่ตัวเอง
ส่วนแม่ของตัวเองนั้นอายุค่อนข้างเยอะ เชื่องช้า จับปลาแทบไม่ได้ ได้ก็แต่ตัวเล็กๆเท่านั้น

ครั้นเมื่อกลับถึงบ้านต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าบ้าน
แม่ก็รีบหุงหาทำกับข้าวใส่ปลาที่ได้มาตัวเล็กตัวน้อยเท่าที่มี
ส่วนลูกชายนั่งยิ้มร่าตรงหัวบันได คิดในใจว่าวันนี้เราจับปลาตัวใหญ่ๆได้เยอะ
เดี๋ยวแม่ของสาวที่ตนเองแอบชอบก็จะมีเรียกให้ไปทานข้าวด้วยแน่นอน
แต่รอแล้วรอเล่าจวบจนมืดค่ำก็ไม่มีใครโผล่มาเรียกให้ไปทานข้าวด้วย
มีแต่แม่ของเขาที่เรียกให้ลูกชายกินข้าว

เมื่อแม่เห็นลูกเป็นเช่นนั้นจึงเข้าไปปลอบและก็บอกกับลูกชายว่า
“เป่อเกร่อเอาะปว่าโหม่เต่อเกฺ…ปว่าโหม่เกฺเต่อก๊อเอาะเหน่อเม”
อย่าอวดแม่คนอื่น…แม่คนอื่นไม่เรียกเรากินข้าวหรอกนะลูก

เมื่อลูกชายได้ฟังที่แม่พูดถึงกับร้องไห้โฮ…เข้าไปโอบกอดแม่
สำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองกระทำไว้ พร้อมกับรับปากแม่ว่าต่อไปจะดูแลแม่ดีๆ จนกว่าชีวีจะหาไม่
แล้วทั้งสองแม่ลูกก็นั่งทานข้าวด้วยกันด้วยความสุขสำราญ

เอาไว้เตือนตัวเอง แล้วนี่ก็
ใกล้วันแม่แล้วก็ขอให้แม่ทุกคนบนโลกใบนี้มีแต่ความสุข
สุขกาย สบายใจ อยู่ไหนก็มีแต่คนรัก
เดินทางใกล้ไกล แคล้วคลาด ปลอดภัย
อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง

ทีวี เด็กสามหมอก ^-”
11-08-2560